วันจันทร์ที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

ออกกำลังกายใต้น้ำ


เย้ๆๆๆมาแล้วค่ะ " มาออกกำลังกายกันเถอะ เพื่อหุ่นที่สวยและสุขภาพที่ดี " ทุกคนก็เห็นด้วยใช่ไหมค่ะ แต่.. การที่เราจะเริ่มออกกำลังกายนั้นมันไม่ง่ายเลย ไหนจะปวดเมื่อย เหนื่อย ร้อน เฮ้ออ... แค่คิดจะเริ่มออกกำลังกายก็ยากซะแล้ว แต่ถ้าเราเริ่มต้นออกกำลังกายอยากถูกที่ ถูกแบบ จะช่วยให้การเริ่มออกกำลังกาย สนุก ลดความเมื่อยล้า สบาย และติดใจได้อีกด้วย การออกกำลังกายใต้น้ำคือจุดเริ่มต้นของการเริ่มออกกำลังกายอีกทางหนึ่ง ซึ้งจะช่วยให้คนที่มีน้ำ้นักมาก ผู้มีอาการบวดเมื่อยตามร่างกาย ผู้สูงอายุ หรือแม่แต่ผู้เริ่มต้นออกกำลังกายมีสุขภาพที่ดีได้ไม่ยากเลยค่ะ

วารีบำบัดหรือการออกกำลังกายในน้ำ จะสนุก ง่าย และช่วยให้ร่างกายมีสุขภาพแข็งแรงได้เหมือนกับออกกำลังกายบนบกทั้วๆไปค่ะ แต่วิธีนี้นอกจากจะไม่รู้สึกเหนื่อยแล้ว ยังลดความเมื่อยล้า และลดการกระแทกหรือการบาดเจ็บจากการออกกำลังกายแบบอื่นอีกด้วย แถมยังช่วยลดน้ำหนักได้อีกด้วยนะคะ ที่สำคัญ ไม่จำเป็นต้องว่ายน้ำเป็นก็ทำได้ค่ะ


ประโยชน์ จากการออกกำลังกายในน้ำช่วยลดโอกาสการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อ ผู้ปฏิบัติยังสามารถยืดเหยียดกล้ามเนื้อในท่าต่าง ๆ ได้ โดยมีข้อจำกัดน้อยกว่าการออกกำลังกายบนบก เพราะน้ำจะมีความหนืด คอยพยุงตัว ทำให้ตัวเบา และลดแรงกระแทก

ทาง การแพทย์ระบุไว้ว่า การออกกำลังกายในน้ำยังเหมาะสำหรับผู้ที่อยู่ในวัยกลางคน-ผู้สูงอายุ เพราะช่วยลดความเสี่ยงการเจ็บป่วยด้วยโรคเกี่ยวกับกระดูก ข้อ หรือกระดูกพรุน รวมไปถึงผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก กระชับสัดส่วน และการออกกำลังกายเพื่อความแข็งแรง ทั้งยังสามารถปรับใช้กับคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์

สำหรับ สระว่ายน้ำที่นิยมใช้เป็นบริเวณออกกำลังกายนั้นมักจะต้องมีระดับน้ำที่ผู้ ปฏิบัติสามารถยืนได้โดยไม่จมน้ำ ดังนั้นผู้ที่ว่ายน้ำไม่เป็นก็สามารถปฏิบัติได้

อย่าง ไรก็ตาม การออกกำลังกายด้วยวิธีดังกล่าวอาจมีการใช้อุปกรณ์เสริม อาทิ ทุ่นหรือห่วงยางรูปทรงต่าง ๆ ช่วยพยุงตัว และอาจมีราวจับเพื่อช่วยยึดเกาะระหว่างออกกำลังกายในบางท่า

การ เตรียมตัวก่อนเริ่มกายบริหารในน้ำเพียงแค่วอร์มอัพกล้ามเนื้อ ส่วนระยะเวลาในการเอ็กเซอร์ไซส์อยู่ที่ 15-45 นาที ไม่ต่ำกว่า 3 ครั้งต่อสัปดาห์

เพียงเท่านี้ คุณก็มีสุขภาพดีได้แล้ว เห็นไหมคะ การออกกำลังกายก็สนุกได้เหมือนกันค่ะ 

วันพฤหัสบดีที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

กินของว่างแบบไม่อ้วน

เรื่องของความอ้วนกับสาว ๆ เป็นอะไรที่ไม่ค่อยจะถูกกัน วันนี้เราเลยมาเอาใจสาว ๆ ที่ชอบกินระหว่างมื้อด้วยเทคนิคการกินของว่างไม่ให้อ้วนกันค่ะ ไปดูกันเลยว่ามีอะไรบ้าง...

กฎของการกินของว่างไม่ให้อ้วน คือ กินไม่เกิน 100 แคลอรี่ ต่อ 1 ชั่วโมงก่อนถึงเวลาอาหาร แต่ควรเลือกกินคาร์โบไฮเดรตที่มีเส้นใยสูง เช่น ผลไม้ เป็นหลัก จากนั้นก็ค่อยเพิ่มโปรตีนหรือไขมันที่ดีต่อสุขภาพ เพื่อให้อิ่มได้นานขึ้น เช่น 


ถ้าอีก 1 ชั่วโมง จะถึงเวลาอาหารมื้อต่อไป ก็ให้ทานแอบเปิ้ลขนาดกลาง 1 ผล

ถ้าอีก 2 ชั่วโมง จะเป็นเวลาอาหารมื้อต่อไป ให้ทานแอบเปิ้ลขนาดกลาง 1 ผล กับเนยถั่ว 1 ช้อนโต๊ะ 

ถ้าอาหารมื้อต่อไปจะได้เวลาในอีก 3 ชั่วโมง ให้ทานแอบเปิ้ลขนาดกลาง 1 ผล  เนย ถั่ว 1 ช้อนโต๊ะ และแคร็กเกอร์ธัญพืช 5 แผ่น

และถ้าอาหารมื้อต่อไปจะมาถึงในอีก 4 ชั่วโมง 
ก็ให้ทานแอบเปิ้ลขนาดกลาง 1 ผล เนยถั่ว 1 ช้อนโต๊ะ แคร็กเกอร์ธัญพืช 5 แผ่น และนมสดชนิดพร่องไขมัน 1 แก้ว




หรือพอเริ่มบ่าย สาวๆ หลายคนก็เริ่มหิวอีกแล้ว อ้าว แล้วที่บอกว่าจะลดน้ำหนัก อยากหุ่นดี จะทำยังไงดีหล่ะ

ไม่ต้องเครียดไป ทางออกของคุณอยู่ที่ของว่างดีๆ สามอย่างนี้นี่เอง

1.ลูกเกด รู้ไหมว่าลูกเกดนี่แหละคือแหล่งพลังงาน มันเต็มไปด้วยแอนตี้ออกซิแดนท์ที่จะช่วยทำให้เราสดชื่น และเต็มอิ่ม ที่สำคัญ ลูกเกดมีไขมัน และแคลอรี่น้อยมาก กินแล้วไม่อ้วนแน่นอน
2.ชาขิง การดื่มชาขิงสักแก้วยามบ่ายอาจไม่ทำให้คุณอิ่ม แต่น้ำขิงมีคุณสมบัติช่วยระบาย ทำให้คุณสบายท้อง และช่วยดูแลระบบทางเดินอาหารของคุณ ทำให้ร่างกายสดชื่น และช่วยให้รูปร่างดีอีกด้วย

3.โยเกิร์ต รู้กันอยู่แล้วว่าโยเกิร์ตเป็นสิ่งที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ ไม่ว่าจัดอันดับเรื่องอะไร ต้องมีชื่อนี้อยู่ด้วย ทั้งนี้เพราะในโยเกิร์ตมีแบคทีเรียที่ช่วยในการย่อยอาหาร ทำให้ร่างกายของคุณขับของเสียได้ดี และในโยเกิร์ตยังมีสารช่วยให้ร่างกายกระปรี้กระเปร่า ทำให้ยามบ่ายของคุณสดใสขึ้นอย่างแน่นอน

ทีนี้ ก็ไม่ต้องกลัวอ้วนอีกแล้ว เป็นเรื่องธรรมชาติที่ใคร ๆ ก็ต้องการมีรูปร่างที่ดูดี ฉะนั้น ใครที่ชอบกินจุบจิบ แต่ไม่อยากอ้วนก็ลองกินตามที่เราแนะนำดูนะคะ... 

วันจันทร์ที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

หุ่นสวยด้วยโยคะ

การดูแลสุขภาพเป็นสิ่งที่จำเป็นแต่เรา ไม่ค่อยได้สนใจดูแลสุขภาพกันเท่าใดนัก โดยมากมักอ้างเหตุผลง่ายว่าไม่มีเวลา จึงเป็นที่น่าเสียใจยิ่งนักเพราะร่างกายเราก็เหมือนเครื่องจักร เหมือนรถยนต์ หากเราใช้งานไปทุกๆวันไม่บำรุงดูแลรักษา สักวันร่างกายเราก็ทรุดโทรม เกิดการเจ็บป่วย

คุณทราบไหมว่า...หลายพันปีมาแล้ว ชาวตะวันออก เช่น ชาวจีนและชาวอินเดียโบราณ ค้นพบวิธีรักษาร่างกายให้แข็งแรงปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ จากกิริยาท่าทางของสัตว์ในป่าลึกว่า มีวิธีการดูแลตัวเองอย่างไรบ้าง แล้วประดิษฐ์เป็นท่าโยคะออกมาได้หลายพันท่า หลาย ๆ ท่ามีชื่อเรียกตามชนิดสัตว์ อาทิ ท่าปลา ท่านกยูง ท่างูเห่า ฯลฯ

ดังนั้นเราจึงขอแนะนำโยคะเพื่อสุขภาพ โดยการเล่นโยคะ นั้นไม่ยากอย่างที่คิด บางครั้งก็สามารถฝึนเอง และเรียนโยคะ ได้ด้วยตัวเอง ตามคลิปโยคะ โดยทำตามท่าฝึกโยคะ หรือจะแวะไปฟิตเนตใกล้บ้านท่านก็ได้ หากสะดวก แล้วจะมีหุ่นสวยสุขภาพดีได้โดยไม่ยากเลย

โยคะ เป็นศาสตร์ของการบริหารร่างกายและจิตใจ ซึ่งสามารถช่วยบริหารต่อมฮอร์โมนต่างๆ ในร่างกายให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้ นก่อนจะทำการฝึกโยคะในแต่ละครั้งไม่จำเป็นต้องมีการอบอุ่นร่างกายก่อน แต่สามารถทำได้ทันทีในเวลาที่เหมาะสม ในช่วงที่ท้องว่างก่อนกินอาหารในช่วงเช้าหรือเย็น หรือช่วงหลังการกินอาหารแล้วประมาณ 2½-3 ชั่วโมง

การฝึกโยคะที่สำคัญอยู่ที่การทำเป็นประจำ และทุกครั้งที่ทำ สิ่งที่สำคัญมากที่สุด ก็คือ ความคิดและลมหายใจ สติของเราต้องอยู่ที่การเคลื่อนไหวของร่างกาย ลมหายใจ และความคิดในสิ่งที่ดี เช่น หายใจเข้า เราได้รับพลังที่บริสุทธิ์จากธรรมชาติ ได้รับความรู้สิ่งที่ดีๆ เข้ามา และเมื่อเราหายใจออก เราเอาความเหนื่อย ความเครียด อารมณ์ไม่ดีต่างๆ ออกไปจากตัวเรา ดังคำที่ควรระลึกอยู่ในใจขณะปฏิบัติ ดังนี้

(หายใจเข้า)    (หายใจออก)


จุดสำคัญของการฝึกโยคะ คือ ผ่อนคลายจิตใจที่หมกมุ่นสับสน ให้มารวมอยู่กับการออกกำลังกายทำให้เกิดเป็นสมาธิขึ้น สิ่งที่ทำให้โยคะต่างไปจากการออกกำลังกายอื่นก็คือ เมื่อทำแล้ว ร่างกายและจิตใจได้รับการพักผ่อนเต็มที่หลังการปฏิบัติ คุณจะรู้สึกได้ว่าร่างกายเบา จิตใจแจ่มใส


โยคีโบราณพบว่าร่างกายคนเรามีต่อมไร้ท่อที่ผลิตฮอร์โมนออกมา อันเป็นฮอร์โมนที่ส่งผลต่ออารมณ์ต่อความรู้สึกของคนเรา การฝึกโยคะจะช่วยบริหารต่อมไร้ท่อต่าง ๆ ในร่างกายให้ทำงานสมดุลกัน ดังนั้น โดยหลักของโยคะ จะมีผลต่อการควบคุมสภาพจิตใจและอารมณ์ เพราะสิ่งสำคัญที่สุดของโยคะ มิได้อยู่ที่ "ท่าทาง" หากอยู่ที่ "ลมหายใจและความคิด" ในขณะที่ทำ ยกตัวอย่างเช่นการหายใจเข้า รับเอาพลังความรักเข้ามาสู่ตัวเรา หายใจออก เอาความเหนื่อยล้า ความเครียดออกไปจากตัวเรา ต้องคิดแต่สิ่งดี ๆ จิตใจก็จะสงบไม่ ยุ่งเหยิง เหตุที่โยคะเป็นท่าที่ต้องทำพร้อมกับควบคุมลมหายใจ การจดจ่อกับท่าทาง และการหายใจ ทำให้ใจคอว่อกแว่กยาก จึงส่งผลก่อให้เกิดเป็น สมาธิ สติ เป็นการพัฒนาทั้งร่างกายและจิตใจไปด้วยพร้อม ๆ กัน

เป้าหมายสูงสุดจริง ๆ ของโยคะ คือ 

 - Physical Fit ร่างกายแข็งแรง 
 - Mentally Strong จิตใจเข้มแข็ง
 - Spiritual Elevated มีสปิริต มีจิตใจที่เปิดกว้าง



คุณอาจเริ่มครั้งแรกในเวลาว่างเพียง 5 นาที แรก ๆ อาจขลุกขลัก ไม่เห็นผล แต่ขอให้ลองไปอีก 2-3 ครั้ง ฝึกแบบรีแล็กซ์ ผ่อนคลายอาจเปิดเพลงเบา ๆ คลอไปด้วยก็ได้ คุณจะเริ่มรู้สึกดีขึ้นจิตใจและสมองแจ่มใสขึ้น ก็จะเกิดกำลังใจทำต่อ เพิ่มเวลาไปเรื่อย ๆ 10 นาที 15 นาที เรียกว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดีสำหรับคุณ                

วันพุธที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

เห็ด 3 อย่าง สร้างความมหัศจรรย์


เห็ดเป็นอาหารที่ให้โปรตีนสูง ช่วยในการล้างพิษ ใช้ทดแทนโปรตีนจากเนื้อสัตว์ได้เป็นอย่างดี ทั้งยังไม่มีสารตกค้างอย่างเนื้อสัตว์ แต่ถ้านำเห็ดอย่างน้อย 3 ชนิดมาปรุงเป็นอาหาร จะเกิดประโยชน์ขึ้นอย่างมาก 


โปรตีนในเห็ด 3 อย่าง เมื่อนำมารวมกันประกอบอาหารแล้วจะได้โปรตีนจากเห็ด ที่ร่างกายดูดซึมไปใช้งานได้ง่ายที่สุด ง่ายกว่าเนื้อสัตว์ โปรตีนจากเห็ดจะไปสร้างกรดอะมิโนที่บำรุงสมอง ปรับสมดุลของการสร้างเซลล์ใหม่ในร่างกาย  ต้านการเกิดมะเร็ง ขจัดสารพิษ

ประโยชน์ของเห็ดสามอย่างเมื่อนำมารวมกันปรุงอาหาร
- ล้างสารพิษที่ตกค้างในตับ ช่วยบำรุงตับ
- ลดอนุมูลอิสระที่จะเกิดเป็นเซลล์มะเร็ง

- ใช้เป้นอาหารแคลอรี่ต่ำ ในการลดน้ำหนักได้อีกด้วย


เห็ดที่นำมาใช้ คือ เห็ดที่กินได้ เช่น เห็ดหูหนูดำ เห็ดหูหนูขาว เห็ดหอม เห็ดฟาง เห็ดนางฟ้า เห็ดโคน เห็ดเข็มทอง ล้างน้ำให้สะอาด ก่อนปรุงอาหาร


วิธีการปรุง 

- นำเห็ดที่ทานได้อย่างน้อย 3 อย่าง เช่น เห็ดหูหนูต่างๆ เห็ดหอม เห็ดนางฟ้า เห็ดโคลน เห็ดเข็ม

- ปรุงเป็นอาหาร เช่น ยำ ใส่ในแกงจืด แกงเลียง แกงส้ม ไข่ตุ๋น

- ต้มน้ำดื่ม จะผสมใบมะตูม ใบเตยหรือเพิ่มน้ำตาลกรวดก็ทำให้หอม อร่อย และมีประโยชน์เพิ่ม

- หลีกเลี่ยงการผัดกับน้ำมันพืช 



เพียงเท่านี้คุณก็สามารถดูแลสุขภาพได้อย่างง่ายๆแถมอร่อยอีกด้วยหละค่ะ



วันเสาร์ที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

ต้นแขนเรียวกระชับ

หลังจากที่เราจัดการต้นขาและสโพกที่หย่อนคล้อย ไม่กระชับได้แล้ว มาถึงช่วงบน ก็คือ ต้นแขนที่เรียวสวยและกระชับนั่นเองค่ะ ผู้หญิงส่วนมาก อยากใส่เสื้อแขนกุด สายเดี่ยว เกาะอก ให้ดูสวย โดยเฉพาะ หน้าร้อน ที่เราสามารถใส่เสื้อผ้าสีสดใส พร้อมกับการเผยผิวสวยและเรียวดูกระชับ หลายคนอาจไม่มั่นใจกับรูปร่างของตัวเอง แน่นอนค่ะ ต้องเริ่มจากการรับประทาน อาหารที่มีแคลอรี่น้อย บวกกับท่าบริหารง่ายๆ ที่คุณสามารถทำได้ระหว่างวัน ใช้เวลาน้อย และไม่ยากอีกด้วย เริ่มจาก

- บริหารต้นแขนด้านใน นั่งตรงขอบเก้าอี้ถือเวทหรือขวดน้ำที่มีขนาดพอดีมือ แล้วโน้มตัวมาข้างหน้าเล็กน้อยใช้มือซ้ายยันเข่าเพื่อพยุงตัว ส่วนข้อศอกขวายึดไว้กับเข่าขวาด้านในยกเวทหรือขวดน้ำเข้าหาไหล่ทำสัก 20 ครั้ง สลับกันทั้งสองข้าง 

- บริหารต้นแขนด้านนอก
 ยืนแยกเท้าและงอเข่าเล็กน้อย มือถือลูกบอลยกขึ้นเหนือศีรษะ งอข้อศอกและส่งลูกบอลไปด้านหลังจนจรดต้นคอ กลับสู่ท่าเริ่มต้นทำซ้ำอย่างน้อย 30 ครั้ง

- บริหารไหล่ มือ ซ้ายและขวาถือขวดน้ำข้างละใบไว้ที่ระดับสะโพกค่อย ๆ ยกแขนทั้งสองข้างขึ้นเหนือศีรษะ แล้วเหวี่ยงไปข้างหลัง วนเป็นรูปวงกลมทำประมาณ 10 รอบ แล้วเปลี่ยนสลับข้าง

- บริหารไหล่และหลัง ยืนแยกเท้าและงอเข่าเล็กน้อยในมือทั้งสองถือพ็อคเก็ตบุคข้างละ 2-3 เล่ม พักไว้ตรงหน้าขาค่อย ๆ ยกแขนทั้งสองข้างขึ้นสูงถึงระดับไหล่ ชูแขนเหยียดตรงเกร็งกล้ามเนื้อพร้อมลดแขนลงช้า ๆ ทำซ้ำประมาณ 20 ครั้ง

- บริหารอกและแขน ตั้งเก้าอี้วางชิดผนังมือเกาะที่ขอบเก้าอี้ทรงตัวเหยียดแขนตรงยืนบนปลายเท้า จากนั้นงอศอกดึงตัวเข้าหาเก้าอี้ให้ใกล้ที่สุดแล้วยืดแขนออกทำซ้ำสัก 30 ครั้ง

- นอนหงายราบกับพื้น หลังไหล่แนบพื้น ยกขาทั้ง 2 วางบนเก้าอี้ กางแขนออกไปด้านข้าง แขนเหยียดตรง มือทั้ง 2 ข้างถือดัมบ์เบลล์หนัก 3 ปอนด์ หรืออาจใช้ขวดน้ำพลาสติกขนาดลิตร ก้ได้ (ต้องมีน้ำบรรจุเต็มด้วย) เริ่มยกดัมบ์เบลขึ้น โดยยกเข้าหาลำตัว ศอกแตะพื้น ชูแขนตั้งตรง ค้างไว้ นับ 1 - 10แล้วยกแขนชูขึ้นสูงจนแขนตึง ค้างไว้ นับ 1 - 10 กลับมาท่าพัก ทำ 10 ชุด

- ยืนตรง ขาแยกจากกันเล็กน้อย ค่อยๆ ยกแขนขึ้นกางไปทางด้านข้าง เหยียดแขนให้ตึง และตรง กำมือไว้ให้แน่น แล้วหมุนแขนเป็นวงแคบๆ จะต้องหมุนเร็วๆ โดยเหวี่ยงไปทางด้านหลัง นับ 1 - 20 แล้วทิ้งแขนลงข้างลำตัว เพื่อพักสักนิด แล้วทำต่อสลับพักอีก 5 ชุด 

ทั้งหมดนี้ เราสามารถทำได้ง่ายๆระหว่างวัน หรือเวลาไหนก็ได้ที่เราสดวก ทำต่อเนื่องอย่างเป็นประจำ แล้วจะเห็นผลอย่างรวดเร็วค่ะ

วันพุธที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

ลดสะโพกเป็นเรื่องง่าย

หลายคนคงหนักใจกับการ ลดน้ำหนักโดยการคุมคุมแคลอรี่อาหาร ออกกำลังกายและมีวินัยกับตัวเองเสมอ แต่ผลที่ออกมากับพบว่าน้ำหนักได้ค่อยๆลดงจริง แต่สัดส่วนนี่สิ ทำไมยังดูเท่าเดิม แถมบางที่บางจุดยังดูยากเหลือเกินที่จะทำให้ดูกระชับ เข้ารูปอย่างที่เราต้องการ

สะโพก เป็นส่วนหนึงที่สาวๆหลายคนกังวลกับส่วนนี้ เพราะเป็นส่วนที่สะสมไขมันใว้ได้มาก และจะทำให้หย่อนคล้อยได้ง่ายทีเดียว การที่จะกำจัดส่วนเกิดให้ดูดีขึ้นได้ ต้องอาศัยการหมุนเวียนของเลือดที่ดี 


การนวดกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต รวมทั้งกำจัดของเสียและไขมันที่สะสมอยู่ใต้ผิวหนังด้วย สำหรับการนวดที่ดีคือ ให้ใช้ครีมที่ใช้ขจัดไขมันใต้ผิวหนัง โดยเฉพาะช่วงเวลาที่ดีที่สุดสำหรับการนวด ควรเป็นตอนก่อนนอน หลังอาบน้ำในตอนเช้า หรือก่อนทานอาหารหนึ่งชั่วโมง ควรใช้ครีมนวดติดต่อกันอย่างสม่ำเสมอ

การขัดผิว จะช่วยในเรื่องของการแตกลาย จุดด่างดำ ผดผื่นแดง และรอยหยาบกร้านให้หมดไป หาเจลขัดผิวที่มีผงละเอียด และกลิ่นที่ช่วยให้คุนผ่อนคลาย จะช่วยให้รู้สึกสดชื่นขึ้นในขณะที่ขัดผิวให้ขัดเป็นวงกลมในบริเวณที่เกิดรอย หยาบกร้าน

การออกกำลังกายกระชับสะโพก โดยปั่นจักรยานอากาศ 500-1000ครั้ง โดยเริ่มจาก50 แล้วค่อยๆเพิ่มจำนวนในแต่ละวัน เป็นการตั้งเป็าหมายให้ตัวเอง หรือจะใช้ท่ากระชับโดยเริ่มจาก

ยืนตัวตรง ขาแยกจากกันเล็กน้อย ย่อตัวเล็กน้อย เข่างอ ทำท่าเหมือนจะนั่งเก้าอี้ ย่อตัวค้างไว้ เข่าที่งอและกางออกก็ค้างไว้ ยกแขนขึ้นเหยียดตรงไปข้างหน้า แล้วเหวี่ยงไปทางขวา นับ 1 - 10 จากนั้นเหวี่ยงไปทางซ้าย นับ 1 - 10 ขณะเหวี่ยงแขน ลำตัวต้องตรง หันแค่หน้าไปทางข้างที่แขนเหวี่ยงเท่านั้น ทำแบบนี้ 10เซ็ตต่อวัน ไม่เพียงแต่กระชับสะโพก แต่ยัง ลดต้นแขน-ต้นขาอ่อน ได้อีกด้วย 

วันอาทิตย์ที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

วิธีเผาผลาญแคลอรี่

เพื่อเป้าหมายที่จะมีหุ่นสวย และสุขภาพที่ดีนั้น จะลดปริมาณอาหารหรือจำกัดแคลอรี่เพียงอย่างเดียว ผลที่ออกมาก็คงเป็นไปได้ช้า แถมบางคนยังรู้สึกอ่อนเพลียไม่กระชับกระเฉง และเมื่อน้ำหนักเริ่มลดลงปัญหาสัดส่วนหย่อนคล้อยก็จะตามมา ดังนั้นเราควรที่จะลดปริมาณแคลอรี่จากการทานอาหาร และเผาผลาญแคลอรี่ไปพร้อมๆกัน เชื่อหรือไม่ ถ้าเราทำควบคู่กัน จะเห็นผลดีอย่างไม่น่าเชื่อ

แต่วิธีเผาผลาญแคลอรี่นั้นอาจเป็นอุปสรรค์ต่อหลายๆคน เนื่อจากการเริ่มออกกำลังกายอย่างสมำ่ำเสมอ เป็นการเริ่มต้นที่ยาก ต้องมีวินัยที่จะทำให้เป้นประจำ และต่อเนื่องจึงจะเห็นผล ต้องเจียดเวลาส่วนตัว เพื่อออกไปโรงยิมหรือฟิตเนส แต่ไม่เลย เราสามารถทำให้การเผาผลาญแคลอรี่เป็นเรื่องง่ายๆที่ทำได้ที่บ้านของคุณเอง โดยไม่ต้องออกไปไหน

บางคนอาจลืมคิดไปว่า กิจกรรมที่เราทำอยู่ในบ้าน หรืองานบ้านที่เราทำอยู่ทุกวันนี่แหละ ช่วยให้เราเผาผลาญแคลอรี่ได้อย่างดีทีเดียว

ปริมาณแคลอรี่ที่ใช้ในวลา ชั่วโมง 
ทำกับข้าว               176 แคลอรี่
 รีดผ้า                    120 แคลอรี่
 ปัดฝุ่น                   191 แคลอรี่
 ทำสวน                  400  แคลอรี่
 เช็ดถูบานหน้าต่าง    250  แคลอรี

แทนที่เราจะนำเสื้อไปร้านซักรีด จัดเวลาสัปดาห์ละครั้ง รีดผ้าของคุณเอง อาจทำไปพร้อม ๆ กับการดูทีวีรายการโปรดไปด้วย ลงมือทำความสะอาดรถ 


ล้างรถ ดูดฝุ่นด้วยตัวคุณเอง เลือกช่วงเย็น พอมีแดดอ่อน จะเป็นวิธีออกกำลังกายที่ได้ผลดีทีเดียว 


การปัดกวาดบ้าน ถูพื้น รวมทั้งทำความสะอาดบานประตู หน้าต่าง ให้สะอาดใสแจ๋วนั้น จะช่วยบริหาร ช่วงไหล่ ต้นแขน ขา และหลังส่วนบนได้ค่ะ ในระหว่างที่ทำก็อาจจะเปิดเพลงสนุกๆ ให้คุณทำงานบ้านด้วยอารมณ์สนุกสนาน เพลิดเพลิน งานบ้านที่เคยน่าเบื่อ ก็จะเป็นกิจกรรมสนุก ๆ ที่ทำให้ คุณสดชื่นขึ้นได้ค่ะ 


เห็นไหมคะว่าการทำงานบ้านเองให้ประโยน์ชอย่างไม่น่าเชื่อ ได้หุ่นสวยสุขภาพดี แถมยังบ้านสอาดเรียบร้อยด้วมือของเราเองอีกต่างหาก เห็นแบบนี้แล้วคงต้องลองแล้วละค่ะ